พรีเมียร์ลีกอังกฤษในฤดูกาลนี้ก่อนที่ทุกคนจะเชื่อว่าการคว้าแชมป์ของ “เดอะ บลูส์” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ค่อนข้างแน่นอน แม้จะเหลือการแข่งขัน 15–16 นัดเนื่องจากคะแนนห่าง 9 แต้มหรือบางครั้งก็ขาดเหลือ 12 แต้ม
แม้ว่าในทางทฤษฎีคะแนนนำจะขึ้นอยู่กับจำนวนการแข่งขัน ส่วนที่เหลือจะถูกคำนวณ ยังเปิดโอกาสให้หลายทีมคว้าแชมป์ แม้แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ในทางปฏิบัตินั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เพราะทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า อยู่ในฟอร์มท็อป เมื่อคุณลงไปยิงคู่ต่อสู้ให้เป็นชิ้นๆ
อันที่จริง เกมพรีเมียร์ลีกล่าสุดที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พบกับท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไม่มีวี่แววว่าซิตี้จะพ่ายแพ้เลย นอกจากจะได้ลงเล่นในรังเอทิฮัดสเตเดี้ยมต่อหน้าแฟนบอลแล้ว รูปแบบการเล่น “ไก่เดือยทอง” นั้นมากมายมหาศาลเอาไม่อยู่แน่นอน
ปราชญ์ทุกคนรู้ดีไม่ว่าจะในอังกฤษหรือชาติอื่น ๆ เชื่อว่า "เรือใบสีน้ำเงิน" น่าจะหักคอ "ไก่เดือยทอง" ได้ สะสม 3 แต้มได้ไม่ยาก
แต่ในสนาม ลางสังหรณ์เริ่มไม่ดีเมื่อสเปอร์สขึ้นนำก่อนจากดาวเตะดายัน คูลูเซฟสกี้
ใหม่ในนาทีที่ 4 แต่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาตีเสมอจาก อิลคาย กุนโดกัน ในนาทีที่ 33 ก่อนจะเป็น "ไก่เดือยทอง" ขึ้นนำอีกครั้งจากแฮร์รี่ เคน ในนาทีที่ 59 จนกระทั่งมาถึงช่วงท้ายเกม สวรรค์ดูเหมือนจะอยู่ข้างแมนเชสเตอร์ซิตี้เมื่อมาถึงจุดโทษก่อนที่ริยาดมาห์เรซจะกวาดผ่านเพื่อให้ซิตี้เสมอ 2-2
เมื่อมองดูเวลาที่เหลืออยู่ ไม่มีใครคาดคิดว่า "เรือใบ" จะพ่ายแพ้ แต่เป็นเคนคนเดิม การโหม่งในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 5 ทำให้สเปอร์สเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-2
จากการกดดันให้สเปอร์สเอาชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมนี้ดูเหมือนจะเป็นแสงสว่างที่ส่องทางให้ "หงส์แดง" ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกกลับมาอีกครั้ง
เพราะก่อนหน้านี้ทีมของ Jurgen Klopp แม้จะเก็บชัยชนะมากดดันแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ และผมไม่รู้ว่ากี่ครั้งแล้ว แต่ “บลูส์” ก็ไม่ล่ม ดังนั้นพวกเขาจึงเก็บชัยชนะได้ตลอด มีเพียงสิ่งกีดขวางที่เซาแธมป์ตัน กลางเดือนที่แล้วแต่กลับมาไว
ในคืนวันเสาร์ที่ “หงส์แดง” ถึงแม้นอริชจะคว้าชัยก่อนแต่ไม่มีมือใดๆ เดินหน้าลุยแบบ "แมชชีนแดง" จน 3 ประตูสุดท้ายติด ชนะ 3-1
ทำให้ลิเวอร์พูลตอนนี้ไล่ตามแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปได้เพียง 6
superslot
แต้ม แถม "หงส์แดง" ยังเล่นไม่ถึง 1 นัดอีกด้วย
หากวันพุธ (23 ก.พ.) “หงส์แดง” ที่เล่นในบ้านตัวเองสามารถโค่นล้ม “ยุงทอง” ลีดส์ ยูไนเต็ด จะทิ้งแต้มตามหลัง “เรือใบ” เพียง 3 แต้ม
เรียกได้ว่าความพ่ายแพ้ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในครั้งนี้คือ “โอกาสทอง” ที่ทำให้ “หงส์แดง” กลับมาลุ้นแชมป์เต็มตัวอีกครั้ง
แต่สุดท้ายแล้ว "หงส์แดง" จะคว้า "โอกาสทอง" ครั้งนี้หรือไม่?
มะระหวาน
ติดตามรายละเอียดได้ที่ ::: superslot-x.com/